Register Here   

ติดต่อผ่าน Line

@Sirasafety

เยี่ยมชมร้านค้าของเรา

เพื่อนบ้าน

  • BW-LINKs.com

การเลือกซื้อรองเท้าเซฟตี้

การเลือกซื้อรองเท้าเซฟตี้ ควรเลือกให้ถูกต้อง เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะรองเท้าเซฟตี้ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย หลากหลายรูปแบบ ราคาตั้งแต่ 400บาทถึง2000บาท ถ้าเราเน้นเฉพาะราคาถูก เราก็จะได้รองเท้าเซฟตี้ที่ไม่ทนทาน ใช้แล้วเกิดปัญหา พื้นหัก พื้นอ้า พื้นร่อน หนังรองเท้าขาด ในระยะเวลาการใช้งานที่สั้น

วิธิการเลือกซื้อรองเท้าเซฟตี้ พื้นรองเท้าเซฟตี้ 1. พื้นพียู ข้อดีคือจะมีน้ำหนักเบา ทนทานต่อน้ำมัน และสารเคมี ,กันลื่น และกันไฟฟ้าสถิตย์ ยิ่งถ้าสวมใส่แล้ว พื้นจะยิ่งทนทาน โดยเฉพาะถ้าเป็นพื้นพียู2ชั้น จะทนทานมาก ข้อเสียคือ ราคาจะสูง และขั้นตอนการผลิตต้องเป็นเครื่องจักรที่ลงทุนสูง เหมาะกับผู้สวมใส่ที่เน้นความทนทาน ใส่สบายเท้า เพราะใส่แล้วน้ำหนักเบา ไม่รู้สึกถึงความเมื่อยล้า 2. พื้นไนไตร ข้อดีคือ ทนทานต่อน้ำมัน และสารเคมี กันลื่น ข้อเสียคือ น้ำหนักเยอะ ใส่แล้วรู้สึกเมื่อยล้าง่าย 3. พื้นพีวีซี ข้อดีคือ ราคาถูก ข้อเสียคือ ไม่กันน้ำมัน และไม่กันสารเคมี เหมาะสำหรับผู้ที่งบประมาณน้อย ใช้งานไม่บ่อย และงานไม่หนัก ไม่ทนทาน อายุการใช้งานสั้น หนังรองเท้าเซฟตี้ 1. หนังแท้ ทำจากหนังวัว หรือหนังควาย ข้อดี ทนทาน ไม่เป็นรอยง่าย อายุการใช้งานรองเท้านาน ข้อเสียคือ ราคาสูงกว่ีา หนังพีวีซี 2. หนังพีวีซี ข้อดีคือ ราคาถูกเท่านั้น ข้อเสีย คือเป็นรอยง่าย อายุการใช้งานสั้นัว หัวรองเท้าเซฟตี้ 1. หัวเหล็ก200จูล จะได้มาตรฐาน ความปลอดภัยสากล CE ,EN, มอก. ซึ่งวัตถุประสงค์ของผู้สวมใส่รองเท้าเซฟตี้ คือต้องการความปลอดภัย้ในเวลาทำงาน ดังนั้นหากต้องการได้รองเท้าเซฟตี้ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ความเลือกที่หัวเหล็ก200จูลี้ 2. หัวเหล็ก100จูล จะไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ประหยัดงบรองเท้า มีราคาถูก นอกจากนี้ ห่วงผูกเชือกรองเท้าเซฟตี้ก็สำคัญ เพราะถ้าห่วงรองเท้าเซฟตี้ทำจากทองเหลือง หากโดนน้ำหรือความชื้น รองเท้าเซฟตี้จะไม่ขึ้นสนิม แต่รองเท้าเซฟตี้ส่วนใหญ่ ห่วงผูกเชือกรองเท้าทำจากเหล็ก ทำให้เกิดสนิมง่ายเมื่อเจอความชื้น ดังนั้น หากต้องการเปรียบเทียบราคารองเท้าเซฟตี้ เราควรดูที่คุณภาพของรองเท้า วัสดุที่นำมาผลิตว่าคุ้มค่าต่อราคาหรือไม่

วันที่ : 19/12/2015, 15:59 แก้ไขล่าสุด : 19/12/2015, 15:59